วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

กำจัดแมลงสาบ

วันนี้หลังจากเคลียร์งานเสร็จ ก็คิดได้ว่าควรจะจัดการเจ้าพวกแมลงสาบที่เข้าไปทำรังอย่างสบายใจในมุมอับของตู้เก็บเอกสารซะที เลยไปเรียกพี่แม่บ้านให้มาพร้อมอาวุธครบมือ ได้แก่ ไม้กวาด ที่ตักผง ผ้าขี้ริ้ว และ ยาฉีดฆ่าแมลง ให้พี่แม่บ้านเป็นแนวหน้า (สุภาพบุรุษสุดๆ) ส่วนเราเป็นแนวหลังคอยจัดการพวกที่หนีรอดจากแนวหน้ามาได้ด้วยอาวุธประจำเท้า เริ่มปฏิบัติการได้....

พอยกตู้ขึ้นทำให้เห็นบริเวณชุมนุมของกลุ่มแมลงสาบได้ชัดเจน แต่เนื่องด้วยความเร็วในการหลบซ่อนทำให้นับจำนวนด้วยตาเปล่าได้แค่คร่าวๆ สิบกว่าตัว พริบตาเดียวพวกมันก็หนีไปหลบตามซอกตามหลืบต่างๆ พี่แม่บ้านใช้ยาฉีดฆ่าแมลงลุยเข้าไปก่อนแล้วตามด้วยไม้กวาด กวาดพวกมันออกมา ส่วนใหญ่จะอยู่ในสภาพหงายท้องเต้นบีบอย มีหลุดมาแถวสองให้ได้ยกเท้าวางใส่สามตัว และ มีแอบอยู่ในเพดานตู้ที่ยกออกอีก 3 ตัว สรุปแล้วที่จัดการรวบตัวได้วันนี้มีทั้งหมดอยู่ในที่ตักผง 12 ตัวครบโหลพอดี

หลังจากกลับมาถึงบ้าน ด้วยความรู้สึกว่าแบบนี้เดี๋ยวมันจะกลับมาใหม่แล้วเราต้องจัดชุดปฏิบัติการแบบนี้กันทุกๆเดือนหรือเปล่านะ และเคยได้ยินว่าพวกแมลงจะเริ่มปรับตัวทนต่อยาฆ่าแมลงได้ เราจะมีวิธีป้องกันไม่ให้พวกมันกลับมาอาศัยอยู่มั้ย หรือมีวิธีที่จะจัดการแบบปลอดสารพิษบ้างหรือเปล่า เอาล่ะ อากู๋ครับ ช่วยผมหน่อย "การกำจัดแมลงสาบ"

ผลลัพธ์แรกที่ Google ให้มา เป็นกระทู้ในเวบบอร์ด dek-d.com เน้นไปที่การดักจับนะครับ อ่านดูรู้สึกว่าหาวัสดุมาทำได้ง่ายๆ

********
วิธีการกำจัดแมงสาบแบบบ้าน ๆ (เน้นประหยัดและง่าย)

ส่วนประกอบ

  1. ขวด เฮลบลูบอยที่หมดแล้ว 1 - 2 ขวด
  2. น้ำมันหมู

วิธีทำ

  1. เทน้ำมันหมูลงในขวด เฮลบลูบอย แล้วก็เคล้ากะให้น้ำมันหมูเกาะทั่วขวด
  2. เอาน้ำมันหมูป้ายขอบในคอขวด กะให้กำลังลื่นพองาม
  3. เอาไปตั้งไว้กลางห้องครัว หรือ แหล่งชุมนุม แมงสาบ (เฉพาะจุดที่พบบ่อยๆ)
  4. ทิ้งเอาไว้ ประมาณ 8 ชม. แนะนำ >>ตั้ง<< ไว้ก่อนนอน
  5. ตื่นมาตอนเช้าอย่าตกใจ แมงสาบจะยัวะเยียะ ไปทั้งขวด แต่ออกมาไม่ได้ เด็กและสตรีที่กลัวแมลงสาบ ไม่ควรทำ เพราะอาจจะตกใจตายได้
  6. เอาฝาเฮลบลูบอยปิดไว้ แล้วฝากให้รถขยะพาแมงสาบไปเที่ยว


วิธีกำจัดแมลงสาบ แบบอื่นๆ

  • แมลงสาบมักชอบอยู่ในมุมอับ ผลิตลูกหลานออกมาอย่างมากมาย วิธีกำจัดง่าย ๆ ก็คือ เอาน้ำตาลเคี่ยวกับน้ำให้มีกลิ่นหอมแล้วนำไปใส่ในกะละมังหรือภาชนะที่มีความลื่น เพราะเมื่อแมลงสาบได้กลิ่น มันจะลงไปกินแต่ไม่สามารถไต่ขึ้นมาได้ วิธีนี้ก็จะช่วยลดพลเมืองแมลงสาบได้มาก และถ้ากันมดและแมลงสาบเข้าไปในตู้เสื้อผ้า หรือ ตู้หนังสือ โดยใช้ก้านพลูและพริกไทยเม็ดบรรจุใส่ถุงผ้าเล็ก ๆ แล้วนำไปไว้ตามซอกของตู้เสื้อผ้า หรือ ตู้หนังสือ 
  • นำขวดแก้วที่มีปากค่อนข้างกว้างใส่น้ำแกงจืดหรือน้ำต้มยำที่เหลือจากการรับประทานอาหาร (ใส่ประมาณครึ่งขวด) แล้วนำไปวางไว้บริเวณซอกหรือมุมห้องภายในบ้าน โดยวางให้ชิดติดกับผนังเพื่อล่อให้แมลงสาบที่ไต่ตามฝาผนังลงมากินน้ำแกงในขวด ทำให้ไม่สามารถปีนกลับขึ้นมาได้
  • ใช้เหยื่อล่อแมลงสาบสำเร็จรูป ซึ่งบรรจุอยู่ในตลับที่มีช่องว่างเพื่อให้แมลงสาบมุดหัวเข้าไปกินเหยื่อแล้วออกมาตายภายนอก (ไม่ตายค้างอยู่ด้านในตลับ) โดยนำไปวางไว้ในบริเวณที่มีแมลงสาบชอบเดินผ่าน อาทิ ตามซอกมุมอับต่างๆ หรือวางไว้ใกล้ท่อระบายน้ำทิ้ง เพื่อดักแมลงสาบที่ออกมาหากินยามค่ำคืน
  • ใช้บ้านแมลงสาบ ซึ่งเป็นกาวดักแมลงสาบที่ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยง มีประสิทธิภาพในการดักจับแมลงสาบได้ดี ใช้ง่ายเพียงแค่แกะกล่องกระดาษแล้วนำแผ่นเหยื่อไปวางไว้ตรงกลางแผ่นกาวและพับเป็นรูปบ้าน นำไปวางไว้ตามห้องหรือซอกมุมที่มีแมลงสาบรบกวน เมื่อมีแมลงสาบมาติดจนเต็ม ให้พับบ้านแมลงสาบเข้าทุกด้าน แล้วนำไปทิ้งลงถังขยะ บ้านแมลงสาบมีอายุการใช้งานนานประมาณ 3-4 สัปดาห์ 
  • เอาปูนซีเมนต์ มาผสมกับอะไรหอมๆ น่ากิน เช่น นมผง โอวัลติน หรือถั่วบด ใส่ถาดวางใว้ในที่ที่แมลงสาบชอบเดินผ่าน แล้วก็เอาขันใส่น้ำวางไว้ข้างๆ เมื่อแมลงสาบได้ลิ้มรส อาหารผสมปูนซีเมนต์ และจิบน้ำเข้าไป ปูนซีเมนต์เมื่อผสมกับน้ำก็จะแข็งตัวในท้องของมัน 


http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1181425

********
ส่วนผลลัพธ์ถัดมาก็ดูน่าสนใจเช่นกัน
********

สารกำจัดแมลงสาบที่นักเรียนโรงเรียนสมเด็จประชานุเคราะห์ อำเภอสมเด็จ จังหวัด กาฬสินธุ์ค้นพบและสามารถกำจัดแมลงสาบให้กลับไปตายที่รังได้สำเร็จ

มีส่วนประกอบสำคัญคือ ปูนซีเมนต์ผง ผงแป้งข้าวจ้าว และผงโอวัลติน

ซึ่งเมื่อนำผง 3 ชนิดมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันมากที่สุดแล้วนำไปวางไว้ในที่ที่มีแมลงสาบซุกชุม
พร้อมนำน้ำ ไปวางใกล้ๆแมลงสาบจะมากินสารกำจัดแมลงสาบและน้ำแล้วจะกลับไปตายที่รังของมัน
ซึ่งเป็นวิธีการกำจัดแมลงสาบที่ไม่มีพิษตกค้าง และเป็นอันตรายต่อมนุษย์เหมือน กับการกำจัดแมลงสาบโดยวิธีการใช้สารเคมีฉีดพ่น

เด็กหญิงเจนจิรา โพนยงค์ นักเรียนชั้นประถมปีที่ 6 โรงเรียนสมเด็จ
ประชานุเคราะห์หนึ่งในผู้คิดค้นสารกำจัดแมลงสาบกล่าวว่า ส่วนประกอบของสารกำจัด
แมลงสาบที่นำผสมกันจะมีคุณสมบัติและทำหน้าที่แตกต่างกันไป คือ


  • โอวัลตินจะเป็นสารที่ล่อให้แมลงสาบมากินสารกำจัดแมลงสาบ 
  • แป้งข้าวจ้าวจะทำให้แมงสาบหิวน้ำเมื่อกินเข้าไป 
  • ส่วนปูนซีเมนต์จะทำให้แมงสาบแน่นท้องและตายเมื่อกินสารกำจัดแมลงสาบและน้ำเข้าไป 


ทุกคนทุกบ้านสามารถผลิตสารกำจัดแมลงสาบแบบง่ายๆนี้และนำไปใช้ได้เองอย่างปลอดภัย
ไม่มีสารตกค้าง ให้เป็นอันตรายกับชีวิต

ต้องขอชื่นชมเด็กไทย หัวใส มีสติปัญญาไม่แพ้ประเทศไหนในโลกใบนี้เหมือนกัน

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=silver-mini&month=08-10-2008&group=1&gblog=9

*******
อ่านเสร็จแล้วรู้สึกว่า เข้าท่าแหะ เมนูกินปูนร้อนท้องเนี่ย แต่เอะ เราข้ามอะไรไปหรือเปล่า จริงๆแล้วเรารู้จักเจ้าแมลงสาบนี้ดีหรือยัง

ปกติมันใช้ชีวิตยังไงนะ งานนี้ก็ต้องถามท่านวิกี้แล้วล่ะ ... (http://en.wikipedia.org/wiki/Cockroach) ... เอิ่ม! ภาษาอังกฤษเยอะมาก เริ่มขี้เกียจอ่านล่ะ แหะๆๆ ตัดตรงที่รู้สึกว่าโดนใจมานิดนึงแล้วกันนะ น้าวิกี้บอกว่าแมลงสาบเนี่ย เป็นพวกอึด (Hardiness) สามารถมีชีวิตรอดได้เป็นเดือนโดยไม่มีอาหาร ขาดอากาศได้มากถึง 45 นาที และสามารถฟื้นตัวจากการจมน้ำนานถึง 30 นาทีได้อีกด้วย ใครอย่าไปคิดแข่งกลั้นหายใจกับมันละ นอกจากนั้นแล้วแมลงสาบยังไม่ต้องกลัวเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์จะระเบิด หรือการรั่วไหลของสารกัมตรังสีเพราะพวกมันสามารถทนต่อรังสีได้สูงกว่ามนุษย์ประมาณ 6 - 15 เท่าเลยทีเดียว เหอะๆๆ สุดยอดมั้ยล่ะ

น้าวิกี้บอกวิธีกำจัดด้วยนะ น้าแกบอกว่าให้ใช้ดินเบา (Diatomaceous earth) โรยไว้ แต่ว่ามันคืออะไรล่ะดินเบา เราไม่รู้จัก อากู๋ช่วยด้วย... อากู๋พาไปที่เวบไซต์ของศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (PHTIC) โดย อ.ดร.เยาวลักษณ์ จันทร์บาง ภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อธิบายดินเบาไว้ว่า "เป็นสารที่ได้จากการสะสมของสิ่งมีชีวิตเซลเดียวเรียกว่า diatom ที่ตายทับถมกันอยู่ชั้นดินในแหล่งน้ำจืดและน้ำทะเลนับล้านปี ในโครงสร้างของ diatom ที่เหลืออยู่จะมีส่วนประกอบของ ซิลิกาเป็นจำนวนมาก ดินเบาที่ถูกขุดนำมาใช้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่นอุตสาหกรรมการกรอง เป็นวัสดุดูดซับของเสีย และเป็นส่วนผสมของอิฐเบา นำมาใช้ในขบวนการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร และสามารถนำมาใช้เป็นสารกำจัดแมลงได้ด้วย (Subramanyam and Roesli, 2000; กรมวิชาการเกษตร, 2007)"

ส่วนดินเบาฆ่าแมลงได้อย่างไรนั้น อาจารย์บอกต่อว่า " ดินเบาดูดซับไขมันที่ผนังลำตัวชั้นนอกของแมลงทำให้แมลงมีการสูญเสียน้ำ และผลพลอยได้จากการที่ดินเบาอาจขีดข่วนมีผลทำให้แมลงสูญเสียน้ำเช่นกันแต่นับว่าเป็นปัจจัยที่รองลงมา จากสาเหตุที่ทำให้แมลงสูญเสียน้ำดังกล่าวและเนื่องจากแมลงเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กหากมีการสูญเสียน้ำเพียงเล็กน้อย ก็มีผลรุนแรงทำให้แมลงตายได้ (Subramanyam and Roesli, 2000)"

เข้าท่าแหะ ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยงด้วย แต่จะไปหาดินเบาได้จากที่ไหนล่ะ จะมีขายตามร้านสินค้าเกษตรมั้ยนะ เอาไว้ก่อนละกัน มาดูวิธีถัดไปที่น้าวิกี้แนะนำดีกว่า ... ใช้ตัวต่อ! (Wasp) ตระกูล Ampulex ซึ่งเป็นศัตรูตามธรรมชาติของแมลงสาบ วิธีการที่เจ้าตัวต่อนี้ล่าแมลงสาบก็จัดอยู่ในแนวหนัง Thriller ผสม Action ได้เลย ตัวต่อจะต่อยแมลงสาบสองครั้ง ครั้งแรกจะทำให้แมลงสาบเคลื่อนไหวไม่ได้ไป 2-5 นาที จากนั้นก็จะต่อยครั้งที่สองไปที่สมองของแมลงสาบที่ควบคุมปฏิกิริยาการหนีและอื่นๆ พอแมลงสาบฟื้นตัวจากเข็มแรกแล้ว มันก็จะไม่พยายามหนีและจะถูกตัวต่อพาไปที่รังและวางไข่ไว้บนตัวของแมลงสาบทั้งเป็น! ขนลุกมั้ย วิธีนี้คงจะไม่ไหว ให้ตัวต่อมาบินเล่นอยู่ในสำนักงานคงไม่มีใครเห็นด้วยแน่ๆ

เอาล่ะ พอจะได้วิธีกำจัดโดยไม่ต้องใช้สารเคมีที่เป็นพิษแล้ว ก็เลือกเอาแล้วกันว่าจะสะดวกแบบไหน กับดักแบบขวดเองน้าวิกี้ก็แนะนำเหมือนกันนะ เรียกว่า "Vegas roach trap" แต่เห็นว่าได้ผลดีกับแมลงสาบพันธ์อเมริกันมากกว่าสายพันธ์เยอรมัน อ้าว ทำให้มีคำถามอีก แล้วแมลงสาบในประเทศไทยนี่มันสายพันธ์อะไรล่ะ น้าวิกี้ไทยบอกว่าที่พบในไทยส่วนใหญ่จะเป็นพันธ์อเมริกัน และ ออสเตรเลีย พันธ์หลังนี้สะดุดกับคำว่า"บินได้เก่ง!!!" (http://th.wikipedia.org/wiki/แมลงสาบ)

ขอไม่ลงรูปประกอบใดๆเลยแล้วกันนะ แค่นึกถึงภาพที่เห็น 10 กว่าตัวที่วิ่งกันพล่านนั้นก็ ขนลุกแล้วล่ะ แล้วอาทิตย์หน้าจะได้จัดชุดปฏิบัติการ เตรียมกับดักไปจัดการกับแมลงสาบพวกนี้ แบบไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงให้เป็นพิษเป็นภัยกับคนรอบข้างซะที